วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

วิวิธภาษาเรื่องลูกผู้ชาย...ตัวเกือบจริง

                                                           
ลูกผู้ชาย...ตัวเกือบจริง
ผู้แต่ง                        ชมัยภร แสงกระจ่าง
ลักษณะคำประพันธ์  ร้อยแก้วประเภทเรื่องสั้น
ที่มา                  จากหนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐาน วิวิธภาษาชั้นม.2  บทที่ 2
                                   เรื่อง ลูกผู้ชาย...ตัวเกือบจริง  ตั้งแต่หน้า 16-27
เนื้อเรื่อง
เรามีกันสามคน ผม เจ้าหนุ่ม แล้วก็เจ้าดาว อย่าแปลกใจไปเลยครับ กลุ่มเราผู้ชาย
สอง ผู้หญิงหนึ่งครับ แต่อย่าเผลอไปบอกเจ้าดาวเลยนะครับ มันโกรธตาย เพราะมันบอก
ว่า ฉันก็ลูกผู้ชายคนหนึ่ง ส่วนเจ้าหนุ่มนั้นก็ห้าวเสียจนผมกลัวใจ
เวลาอยู่โรงเรียนเราก็ไปไหนมาไหนด้วยกัน เจอกันแต่เช้าทุกเช้าคำว่าเช้าของเรา
อาจไม่ได้แปลว่าเช้านะครับแปลว่าสายของคนอื่นเพราะกว่าผมจะโผล่มาถึงโรงเรียน
ได้ก็เป็นอันสายแล้วทุกที กลุ่มเราก็มักจะเป็นกลุ่มที่ครูจ้องเป็นพิเศษ ไม่ใช่จ้องให้
รางวัลหรืออะไรหรอกนะครับ    แต่เป็นกลุ่มพิเศษที่ครูจ้องจะทำโทษ ส่วนเราก็จ้อง
เป็นพิเศษเหมือนกันครับ จ้องไม่ให้ครูทำโทษเราได้ เช่นว่า
ครูเขาตั้งกฎไว้ว่า ถ้ามาสายเกิน 5 ครั้งจะหมดสิทธิ์สอบ เราก็จ้องเป็นพิเศษที่จะมาสาย
แค่ 4 ครั้ง พอถึงครั้งที่ห้า เราก็จะพยายามทำให้ครูผิดหวัง หรือครูตั้งกฎไว้ว่า ห้าม
เตะบอลบนระเบียงโรงเรียน เราก็ไม่เคยแตะกันเลยแม้แต่ครั้งเดียวที่เตะกันนั้นคือที่
สนาม แต่ก็เตะกันจนกระทั่งกระจกหน้าต่างแตกได้ ทั้งที่หน้าต่างอยู่บนระเบียง
เห็นไม่ครับว่าผมและเพื่อนๆไม่ได้ทำผิดระเบียบของโรงเรียนแต่อย่างใดเลย
เราสามคนไปไหนก็ไปด้วยกัน เวลาเดินไปกินข้าวผมก็จะเอามือไสหัวเจ้าดาว
ไปด้วยเพราะมันตัวเล็กกว่าใครๆทั้งหมด แกล้งมันง่ายกว่าคนอื่น มันก็หันมาร้องว่า
ผมด้วยสำนวนแย่ๆของมัน"หัวกู" มันว่า "อย่ามายุ่ง"
เรื่องมันเป็นดังนี้ได้ทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่ง อาจารย์เทวีเดินมาเห็นผมกำลัง
ไสหัวเจ้าดาวเข้าพอดี และเจ้าหนุ่มกำลังยกเท้าขึ้นเตะก้นผม อาจารย์กวักมือ เรียกเรา
สามคนเข้าไปหา แล้วก็ทำโทษข้อหามีกิริยามรรยาทไม่สุภาพ แถมยังได้ยินเราพูดกัน
ด้วย ก็เลยเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ พูดจาหยาบคาย ไม่มีสมบัติผู้ดี
ผมก็ไม่รู้หรอกว่าสมบัติผู้ดีน่ะมันเป็นอย่างไร เพิ่งจะได้ยินข้อหาจากอาจารย์เทวี
เป็นครั้งแรก ก็ออกจะแปลกใจอยู่ยังกระซิบบอกเจ้าดาวมันว่า "ไม่รู้..." มันทำท่าจะต่อ
"โว้ย" แต่พอดีนึกได้ว่ากำลังอยู่ระหว่างทำโทษมันก็เลยหุบปากแน่น
หลังจากกินข้าวกลางวันแบบไม่อร่อยที่สุดในโลกแล้ว อาจารย์ก็ทำโทษโดยให้
  เจ้าหนุ่มมันรำคาญก็ผลักผมเซไป ผมก็เลยไปชนเจ้าดาว เท่านั้นแหละก็
เป็นเรื่องทันที เพราะเจ้าดาวมันตัวเล็ก ผมไปชนมันเข้า มันก็กระเด็นไปชนถึงขยะต่อ
จากถังขยะก็ไม่มีใครให้ชนแล้ว มันก็เลยล้มตึงเจ้าดาวเสียหลักล้มตามถังขยะไป
อีกทีหนึ่ง
ลองนึกภาพเอาเองก็แล้วกันว่า มันจะโกลาหลขนาดไหน แค่เดินเก็บขยะ คน
เห็นบ้างไม่เห็นบ้าง ผมก็อายใครต่อใครอยู่แล้ว นี่พอถังขยะล้มแถมด้วยเจ้าดาวล้มตาม
แล้วผมยังเป็นจำเลยฐานทำเจ้าดาวล้มอีก ผมเลยกลายเป็นเป้าเด่น    ไม่แต่น้องก้อย
เท่านั้นที่เห็นผม    คนทั้งโรงเรียนเลยครับ    ไม่เว้นแม้แต่ครูและภารโรง
           ผมรีบเข้าไปช่วยเจ้าดาว จัดการหิ้วปีกมันขึ้นมา มองไปก็เห็นสายตาของน้องก้อย
ยิ้มเยาะอยู่ ผมก็ยิ่งประสาท
"นายประภานนท์"
นั่นเป็นเสียงของอาจารย์พิเชษฐ์ อาจารย์ฝ่ายปกครองที่เขาลือกันว่าดุกว่าเสือ
ผมอยากกระโดหลบหลังเจ้าหนุ่มแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ผมทำได้อย่างเดียวคือ
เดินเชื่องๆออกไปหาเจ้าของเสียงเหี้ยมนั้น
"นั่นเพื่อนผู้หญิงนะ"
อาจารย์ชี้ไปที่เจ้าดาวที่ยืนทำหน้าพิลึกพิลั่น
"เธอไปแกล้งเขาอย่างนั้นได้อย่างไร"
"ผมไม่ได้แกล้งนะครับ" ผมรีบปฏิเสธ
"ไม่ต้องปฏิเสธเลย ลูกผู้ชายทำผิดแล้วต้องรับผิด แค่แกล้งผู้ชายด้วยกันก็ผิด
แล้ว นี่ยังแกล้งเพื่อนผู้หญิงอีกอาจารย์เทวีบอกว่าเธอแกล้งดุจดาว ถึงได้ถูกทำโทษ
แล้วนี่ระหว่างการทำโทษ ยังแกล้งเขาต่ออีก"
ผมโดนข้อหาฉกรรจ์ล้วนๆ
"ก็ได้ครับ ลูกผู้ชายต้องรับผิด" ผมนึกอยู่ในใจ แอ่นอกขึ้นรับผิด
"ผมผิดครับ" ผมตะโกนออกไปเต็มเสียง
นอกจากเก็บขยะคนเดียวในวันนั้นแล้ว ในตอนเย็นผมยังต้องช่วยงาน
อาจารย์พิเชษฐ์ในเรือนต้นไม้อีกเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ
เชื่อไหมครับ อาจารย์พิเชษฐ์ที่ว่าดุเป็นเสือ แกชอบต้นไม้เสียจริงๆ ให้ผมยก
ต้นไม้เข้า ยกต้นไม้ออก ยกดิน ยกปุ๋ย  ยกบ้า ยกบอ ยกอะไรนักไม่รู้ ลากสายยาง เปิดน้ำ
หยดฮอร์โมน หยดเกสร โอ๊ย! สารพัดแหละครับ จนค่ำย่ำเย็น    พอกลับไปถึงบ้าน แม่ก็
ยืนหน้าคว่ำรออยู่ ผมไม่กล้าบอกว่าผมถูกทำโทษ เอาแต่บอกว่าผมมีการบ้านต้องทำที่
โรงเรียนทุกวัน  จนพี่ไก่ไปกระซิบบอกแม่ว่าอะไรไม่รู้ แม่ถึงได้เลิกว่าผม ผมมารู้อีก
ทีหนึ่งว่าเจ้าดาวแหละไปรายงานพี่ไก่  พี่ไก่ก็เลยไปรายงานแม่ทุกอย่างก็เลยสงบดี
เป็นอันว่าเขารู้กันหมดแล้วว่า ผมถูกทำโทษ
นับตั้งแต่ผมถูกทำโทษ ผมมึนตึงกับเจ้าดาว เพราะมันเป็นต้นเหตุ ให้ผมอาย
ผู้หญิงที่ผมแอบชอบ มันเคยตามผมมาที่เรือนต้นไม้ แต่ผมไล่มันกลับไป
"แกไม่ต้องไม่ยุ่ง"
มันทำหน้ามุ่ย
"แกไม่เป็นลูกผู้ชายไล่ผู้หญิง"
"แล้วแกล่ะเป็นลูกผู้หญิงหรือเปล่า ไอ้บ้าเอ๊ย"
มันโมโหที่ผมไปตีถูกขนดหางมัน มันก็เลยกระแทกเท้าป้าปๆจากไป อาจารย์
พิเชษฐ์มาจากไหนไม่รู้มายืนอยู่ข้างหลังผม พูดกับผมขึ้นเบาๆว่า
"ประภานนท์ ครูรู้นะว่าเราไม่ได้อยากว่าผู้หญิงถึงขนาดนั้น แต่ตอนเราอายุ
เท่านี้ เรามักทำอะไรไม่ถูก  เพื่อนผู้หญิงบางคนก็ดูเป็นผู้หญิง บางคนก็ดูเป็นเหมือน
เพื่อนผู้ชาย เราแยกออกจากกันไม่ได้ บางเวลาเราก็อยากจะจีบผู้หญิง  บางเวลาเราก็
อยากปฏิบัติต่อผู้หญิงเหมือนผู้ชาย"
ผมมองหน้าอาจารย์พิเชษฐ์ด้วยความแปลกใจ อาจารย์ที่ว่าดุเป็นเสือเอาเข้าจริง
แล้ว ก็ไม่เลวนักหรอก
"จริงครับ บางทีผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างไรดี เป็นผู้ชายนี่ลำบากนะครับ"
อาจารย์พิเชษฐ์หัวเราะ
"ผู้หญิงเขาก็เป็นเหมือนเรานั่นแหละ ต่างคนต่างลำบาก ค่อยๆดูไป  เดี๋ยวมัน
ก็จะดีไปเอง ไม่ต้องรีบร้อนเป็นลูกผู้ชายหรอก แล้วก็ไม่ต้องหนีที่จะเป็น"
ว่าแล้วอาจารย์พิเชษฐ์ก็หัวเราฮ่า ๆ ๆ คำสอนและเสียงหัวเราะของอาจารย์ทำให้
ผมดีขึ้นมากเลยครับ เวลาจะเป็นลูกผู้ชายก็ต้องคิดแล้วคิดอีก แล้วก็ค่อยๆเป็นแบบอาจารย์ว่า
ข้อคิด 1.เสนอมุมมองเชิงจิตวิทยาพัฒนาวัยรุ่นชาย
2.
เด็กทุกคนควรมีความรับผิด ซื่อสัตย์ ยุติธรรม เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยวและกล้าหาญมาผูกเป็นเรื่อง ด้วยกลวิธีเล่าเรื่องและสอดแทรกสนทนา ซึ่งทำให้เรื่องสมจริงและมีชีวิตชีวา น่าอ่าน ผู้เขียนต้องการสะท้อนความคิด ความรู้สึกพฤติกรรมบางอย่างของวัยรุ่น และให้ข้อคิดแก่วัยรุ่นให้รู้จักความเป็นลูกผู้ชายรู้จักการมองเห็นในแง่ดีและรู้จักความรับผิดชอบ
                เรื่อง ลูกผู้ชาย...ตัวเกือบจริง  เป็นงานเขียนประเภทบันเทิงคดีที่เรียกว่าเรื่องสั้นมีจุดมุ่งหมายเขียนเพื่อให้บันเทิงแก่ผู้อ่านเป็นสำคัญงานเขียนประเภทบันเทิงคดีอาจเป็นเรื่องที่เขียนจากเหตูการณ์ที่เกิดจริงเป็นเรื่องที่เกิดจาก   จินตนาการหรือการสมมุตินักเรียนที่เขียนเก่งมักเขียนได้สมจริงมากที่สุด งานเขียนประเภทบันเทิงคดีมีหลายรูปแบบ เช่น เรื่องสั้น นวนิยาย บทละคร ฯลฯ นักเขียน เรื่องสั้น นอกจากจะสร้างเรื่องให้ผู้อ่านอ่านให้สนุกแล้ว  มักจะสองแทรกแง่คิดค่านิยมหรือประเด็นปัญหาบางประการผู้อ่านที่รู้วิที่การวิเคราะห์และประเมินค่างานเขียนจะได้ประโยชน์จากการอ่านเพิ่มขึ้นด้วย
ลักษณะและองค์ประกอบของเรื่องสั้น
คำว่า เรื่องสั้น แปลจากคำภาษาอังกฤษว่า  short  story เรื่องสั้นโดยทั่วไปจะมีลักษณะ และองค์ประกอบที่ควรสังเกตดังนี้
๑.มีโครงเรื่องง่ายไม่ซับซ้อน  ดังเรื่องลูกผู้ชาย...ตัวเกือบจริงมีโครงเรื่องที่เสนอพฤติกรรมของวัยรุ่นที่สนใจใคร่เรียนรู้การเป็นลูกผู้ชาย
๒.มีแนวคินที่สร้างความประทับใจเพียงแนวคิดเดียว  ดังเรื่องลูกผู้ชาย...ตัวเกือบจริง  ก็คือ  ผู้ใหญ่รู้และเข้าใจธรรมชาติของวัยรุ่น  พร้อมที่จะให้โอกาสชี้แนะให้เห็นแนวทางที่ถูกต้องเหมาะสมยามที่เขาต้องการความช่วยเหลือ
๓. มีตัวละครที่่่่่่่มีบทบาทสำคัญไม่มากนัก    ตัวประกอบอื่นอาจมีตามความจำเป็น  แต่มักไม่เกิด  ๕  ตัวดังเรื่อง  ลูกผู้ชาย..ตัวเกือบจริง  มีตัวละครสำคัญที่เป็นตัวดำเนินเรื่อง  คือประภานนท์มีจุดดาว  หมุ่น  อาจารย์เทวี  และอาจารย์เชษฐ์เป็นตัวประกอบ
๔.ดำเนินเรื่องรวดเร็ว  กระชับ  ดังเรื่อง  ลูกผู้ชาย...ตัวเกือบจริง  นี่เมื่อเปิดเรื่องและแนะนำตัวละครแล้วก็ดำเนินเรื่องได้กระชับและรวบเร็วโดยอาศัยเหตุการณ์ที่ทำให้ประภานนท์ต้องแสดงตนเป็น"ลูกผู้ชาย"
๕.สร้างเหตุการณ์ที่เป็นปนปัณหาหรือเสนอปนปัญหาหรือความขัดแย้งของผู้อ่านเข้าใจเรื่อง ดังเรื่อง  ลูกผู้ชาย...ตัวเกือบจริง
ได้สร้างเหตุการณ์ในประภานนท์ถูกอาจารย์ฝ่ายปรกครองเข้าใจผิดคิดว่าไปกลั่นแกล้งดุจดาว

๖.ไม่เน้นฉากหรือบรรยากาศในเรื่อง  และไม่ไม่นิยมพรรณนารายละเอียดแต่กล่าวถึงเรื่องสั้นๆ   ตรงๆ พอที่จะให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจ ดังเรื่อง  ลูกผู้ชาย..ตัวเกือบจริง  ฉากของเรื่องนี้เป็นโรงเรียนของตัวละครทั้งสาม
๗.ปิดเรื่องโดยการหักมุมที่ผู้อ่านไม่คาดคิด  แต่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจแนวคิดหรือจุดมุ่งหมายของเรื่องได้  ดังเรื่อง  ลูกผู้ชาย...ตัวเกือบจริง  ในแนวคิดซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของการเสนอเรื่องว่า  วัยรุ่นจะต้องค่อยๆ  เรียนรู้และปรับตนให้เหมาะสมกับวัย  ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน๘.มีบทนาที่สร้างความสมจริงตามธรรมชาติของพฤติกรรมมนุษย์เพื่อบอกเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ทำให้ทราบถึงอารมณ์  ความรู้สึกบุคลิกของลักษณะ  และคุณธรรฒของตัวละคร

การประเมินคุณค่าของเรื่องสั้น
เมื่ออ่านเรื่องสั้นแต่ละเรื่อง  นอกจากจะต้องจับใจความสำคัญของเรื่องให้ได้ว่าเรื่องนั้นกล่าวถึงใคร  มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง  เหตุการณ์หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้เกิดผลอะไรตามมาผู้อ่านควรคิดพิจารณาและวิเคราะห์เพื่อประเมินคุณค่าของเรื่องที่ได้อ่านไปแล้วนั้นด้วย  โดยพิจารณาประเด็นต่อไปนี้
๑.ความสนุกสนานเพลิดเพลินที่ได้รับมีน้อยเพียงไร
เรื่อง  ลูกผู้ชาย...ตัวเกือบจริง  เป็นเรื่องสั้นที่อ่านได้สนุกเพลิดเพลินเรื่องหนึ่งผู้อ่านวัยรุ่นน่าจะสนใจติดตามอ่าน  เพราะเนื้อหาเป็นราวที่สะท้อนพฤติกรรมของวัยรุ่น  และอาจตรงกับความคิดหรือผู้อ่านกำลังเผชิญอยู่
๒.สาระความรู้  แนวคิด  และแนวปฎิบัติที่สะท้อนพฤติกรรมตามธรรมชาติของมนุษย์มีว่าอย่างไรอาจหยิบหยกเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของผู้อ่านหรือผู้อ่านหรือบุคคลที่แวดล้อมใกล้ชิดได้มากน้อยเพียงไร
เรื่อง  ลูกผู้ชาย...ตัวเกือบจริงเมื่ออ่านแล้วจะได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อต่อ

๒.๑.ความรู้ความเข้าใจทางจิตวิทยาด้านพัฒนาการวัยรุ่นเกี่ยวกับความคิดที่สับสนและความต้องการแสวงหาแนวทางที่ถูกต้องและเหมาะสมในการเป็น  "ลูกผู้ชาย"

๒.๒.ความเข้าใจความหมายของ "ลูกผู้ชาย"
๒.๓.แนวคิดและแนวปฎิบัติของผู้ใหญ่ที่พึ่งมีต่อศิษย์หรือบุตรหลานวัยรุ่นที่กำลังสับสนกับพัฒนาการและเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตนเองและต้องการเวลาปรับตัว
๒.๔.กลวิธืในก่รดน้มน้าววัยรุ่นให้รู้  เข้าใจ  และยอมรับในการพัฒนาการช่วงวัยรุ่น  ยอมรับความผิด  การกระทำของผู้ใหญ่ว่ามีเจตนาที่ดี  มีความรัก  ความหวังดี  อยากให้เด็กเป็นคนดี  น่ารัก  ประพฤติตนถูกต้อง  เหมาะสม  เคารพกฎ  กติกา  ระเบียบ  และกฎหมายของสังคม
๓.การสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม  พฤติกรรมของตังละครในเหตุการณ์ต่างๆสะท้อนให้เห็นคุณค่าของความเป็นมนุ ษย์ที่สังคมยอมรับมากมากน้อยเพียงไรพฤติกรรมของตัวละครสามารถนำไปเป็นแบอย่างหรือควรนำไปปฏิบัติตามหือไมท่อย่างไร
เรื่อง  ลูกผู้ชาย..ตัวเกืิอบจริงได้แทรกคุณคุณธรรมจริยธรรมต่อไปนี้
๓.๓. การเคารพกฎระเบียบของโรงเรียนหรือสังคม
๓.๒ .ความประพฤติที่เหมาะสมของหญิงชายที่สุ ภาพชน
๓.๓. ศักดิ์ศรีของความเป็นลูกผู้ชาย
๓.๔.ความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเมื่่อทำความผิดก็ยอมรับผิดและยอมรับโทษ
๓.๕.ความเป็นกัลยาณมิตรพึงมีต่อศิษย์
๔.การใช้ภาษาเพื่ิดำเนินเรื่องและสร้างความเป็นจริง  มีความถูกต้องเหมาะสมชัดเจนมากน้อยเพียงใด
     มีข้อควรสังเกตว่าภาษาที่ใช้ในบทสนทนาขิงเรื่องสั้นนั้นอาจใช้ภาษาที่เป็นแบบแผนหรือเป็นภาษาที่ไม่สุภาพเพราะต้องใช้ภาษาให้เขัากับบุคลิกลักษณะและบทบาทของตัวละคร  จึงควรพิจารณาถึงความเหมาะสมในการนำไปใช้ด้วย

คำซ้อน๔จังหวะ
คำซ้อนคำหนึ่งประกอบด้วยคำเรียงกันตั้งแต่ ๒ คำขึ้นไป แต่ละคำมีความหมายใกล้เคียงกันก็มี หรือตรงข้ามกันก็มี เมื่อประกอบเข้ากันแล้ว จะทำให้มีคำใช้เพิ่มขึ้นในภาษา 
ตัวอย่าง
- เกี่ยวข้อง หมายถึง มีความสัมพันธ์กัน ประกอบด้วยคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน คือคำ เกี่ยว ซึ่งหมายถึง ยึดหรือเหนี่ยวเข้ามาติดกับคำ ข้อง ซึ่งหมายถึงติดอยู่
- ขัดขวาง หมายถึง ทำให้ดำเนินไปไม่สะดวก ประกอบด้วยคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน คือคำ ขัด ซึ่งหมายถึง ทำให้ติดขวางไว้ไม่หลุดออกกับคำ ขวาง ซึ่งหมายถึง กีดกั้น
- ส่งเสริม หมายถึง ช่วยให้ดีขึ้น เจริญขึ้น สะดวกขึ้น หรือทำหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้น
ประกอบด้วยคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน คือคำ ส่ง ซึ่งหมายถึง ทำให้ เคลื่อนไปด้วยดี กับคำ เสริม ซึ่งหมายถึง เพิ่มเติมให้พอเหมาะ
คำซ้อนบางคำอาจมีความหมายไม่ต่างกับความหมายของคำที่ซ้อนกันมากนัก แต่บางคำอาจเปลี่ยนความหมายไปบ้าง
ตัวอย่าง
- คัดเลือก หมายถึง พิจารณาคุณสมบัติของสิ่งต่างๆ เพื่อเอาเฉพาะสิ่งที่ต้องการไว้และ ตัดสิ่งที่ไม่ต้องการออกไป มากหนัก
- ค้ำจุน หมายถึง อุดหนุนให้ดำรงอยู่ได้ มีความหมายเปลี่ยนไปจากคำ ค้ำ ซึ่งหมายถึง เอาวัตถุที่แข็งแรง เช่น ไม้ ยันวัตถุอีกสิ่งหนึ่งไว้เพื่อไม่ให้ล้ม กับคำ จุน ซึ่งหมายถึง ใช้วัตถุขนาดเล็กยันพอปะทะปะทังวัตถุอีกสิ่งหนึ่ง ไว้ไม่ให้ล้ม

คำซ้อนบางคำ คำใดคำหนึ่งอาจมิได้ใช้ทั่วไป แต่ใช้เฉพาะในภาษาถิ่นบางถิ่น หรืออาจเป็นคำที่มาจากภาษาอื่น ซึ่งมีความหมายเดียวกันหรือทำนองเดียวกันกับอีกคำหนึ่ง
ตัวอย่าง
- เสื่อสาด คำ สาด เป็นคำภาษาถิ่น หมายถึง เสื่อ
- สร้างสรรค์  สรรค์ เป็นคำที่มาจากภาษาสันสกฤต หมายถึง สร้าง
- ห้าวหาญ  หาญ เป็นคำที่มาจากภาษาเขมร หมายถึง กล้า
ข้อสังเกตเกี่ยวกับคำซ้อน
๑.คำซ้อนในภาษาไทยจำนวนไม่น้อยประกอบด้วยคำที่มีเสียงพยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน เช่น เกลี้ยงเกลา แกว่งไกว ขยับเขยื้อน เคลื่อนคล้อย แจ่มแจ้ง เชิดชู
๒.คำพยางค์เดียวหรือคำสองพยางค์ อาจซ้อนกันได้ กลายเป็นคำซ้อน ๔ พยางค์ เช่น ป่าดงพงไพร กระเซ้าเย้าแหย่ แม่น้ำลำคลอง บรรเทาเบาบาง
๓.หากคำซ้อนคำพยางค์เดียวกับคำ ๒ พยางค์ มักมีการเติมพยางค์อีก ๑ พยางค์ เพื่อให้กลายเป็น คำซ้อน ๔ พยางค์ เช่น ขโมยขโจร สงบงบเงียม
๔.คำซ้อน ๔ พยางค์ อาจมีสัมผัสสระ เช่น คุยโม้โอ้อวด ตีอกชกหัว ถนนหนทาง และอาจมี การซ้ำพยางค์ที่ ๑ กับ ๓ เช่น หัวจิตหัวใจ ห้องน้ำห้องท่า                                  

                             
                                     บทเสริม      
เป็นคนควรสงวนนวงศ์ไว้จงนัก          ถนอมรักษาตัวเหมือนหัวแหวน
อย่าปนปัดให้เขาหลู่มาดูแคลน          ถึงยากแค้นรักรักนวลสงวนกาย
จงดูเยี่ยงจามมีสัตย์มั่น                     แต่ขนข้องอยู่เท่านั้นไม่หนีหาย
คอยเปลื่องปดเสียหมดราคีคาย         ไม่เสียดายชีวาตม์จะขาดกระเด็น
                                                   
                                                     สุภาษิตสอนเด็ก,  ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง
   คิดตรอง   ลองทำดู    
แบ่งกลุ่มแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่อไปนี้  แล้วให้ผู้แทนกลุ่มสรุปให้เพื่อนๆฟัง
๑.ความหมายของชื่อเรื่อง  และความหมาย    "ลูกผู้ชายตัวเกือบจริง"
๒.ความเหมาะสมภาษาที่ใช้ในเรื่อง  เช่นเพื่อนพูดกับเพื่อน  นักเรียนกล่าวถึงครู
๓.วิธีชักชวนให้นักเรียนปฏิบัติตามกฎของโรงเรียน
๔.การโน้มน้าวใจให้นักเรียนพูดจาไพเราะ
๕.ลักษณะที่เป็นคุณสมบัติที่ดี
๒.ฝึกเขียนบรรยายเรื่องราวจากเหตุการณ์หรือสิ่งประทับใจที่พบเห็น  แล้วให้เพื่อนแสดงความคิดเห็นเพื่อนำไปแก้ไขปรับปรุง
๓.จับคู่วิเคราะห์พฤติกรรมที่ดีของเพื่อน  และให้บอกพฤติกรรมดังกล่าวมีผลต่อมิตรภาพระหว่างเพื่อนอย่างไรบ้าง
๔.ฝึกวิเคราะห์พฤติกรรมของตัวละครจากวรรณกรรมหรือวรรณคดีที่นักเรียนชอบแล้วนำเสนอให้เพื่อนๆร่วมแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

                                          คิดเพิ่มเสริมทักษะ
๑.กิจกรรมอภิปายหรือโต้วาทีตามดอกาสอันควร  หัวข้อ  คือ
                                   เป็นผุ้หญิงแท้แสนลำบาก   เป็นชายยิ่งยากกว่าหยายเท่า
๒.อ่านเรื่องสั้นเรื่องอื่นเพิ่มตามความสนใจ  แล้วนำมาเล่าสู่กันฟัง
๓.แนะนำเรื่องสั้นที่น่าสนใจให้เพื่อนร่วมชั้นอ่าน  เล่าเรื่องย่อ  และวิเคราะห์คุณค่าเรื่องสั้นนั้นโดยสังเขป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น